วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การเล่นดึงข้อ เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และสามารถเพิ่มความสูงได้ ตอนที่ 1




ดร. สมภาร พรมทาญหาวัดพระธรรมกายที่กำลังเป็นข่าวต่อเนื่องยาวนานในบ้านเราเวลานี้ สะท้อนหลายสิงที่น่าคิดและน่าเป็นห่วง อาจกล่าวได้ว่ากรณีวัดพระธรรมกายนี้เป็นกรณีที่ส่งผลสะเทือนรุนแรงที่สุดต่อวงการพุทธศาสนาในประเทศไทยเท่าที่เคยเป็นมา ในอดีตนั้นพุทธศาสนาในลังคมเราอาจเคยมีปัญหาบ้าง เช่นปัญหาการละเมิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์ ซึ่งเป็นสิงที่มีมาตลอดเวลา แม้ในสมัยพุทธกาลเองก็ตาม หรือปัญหาที่ดูเหมือนจะสำคัญคือการแยกนิกายเป็นมหานิกายและธรรมยุตในสมัยรัชกาลที่ 3 และ 4 แต่ปัญหาเหล่านี้ก็เป็นปัญหาที่สามารถแกไข หรือดูแลให้เรียบร้อยได้ภายในกรอบของพระธรรมวินัยที่ได้รับการสนับสนุนโด ยรัฐ    สังคมไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาเป็นสังคมที่มีลักษณะพิเศษบางอย่างคือ ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน รัฐไทยถือว่าเป็นหน้าที่ของตนเองที่จะต้องปกป้องพุทธศาสนา ดังนั้นในอดีตเราจะพบว่าเมื่อคณะสงฆ์มีปัญหาซึ่งตามปกติจะสามารถจัดการแกไขได้ภายในคณะสงฆ์เอง  บาร์โหนเหล็ก แต่กลับเป็นว่าคณะสงฆ์ไม่สามารถจัดการได้ รัฐจะยี่'นมีอเข้ามาจัดการด้วยตัวเองทันทีกรณีส่าสุดที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการยื่นมือของรัฐเข้ามาจัดการกับปัญหาในคณะสงฆ์ ก็คือกรณีสันติอโศก และผลของการจัดการนั้นก็เป็นดังที่ทราบกันทั่วไปคือชาวสันติอโศกสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาตามความเชื่อของตนได้แต่ไม,มีสิทธิเรียกตัวเองว่าเป็นพระสงฆ์ในพุทธศาสนาคณะสงฆ์ไทยแม้จะปกครองกันเองด้วยพระธรรมวินัย แต่การปกครองกันเองนั้นเมื่อไม่มีพระศาสดาคอยทำหน้าที่ชี้ขาดความขัดแย้งและเป็นหลักยึดของทุกฝ่ายแล้วก็อาจมีปัญหาได้ในบางกรณี สิงสำคัญที่สุดที่ทำให้การปกครองกันเองของสงฆ์มีปัญหาก็คือ การมีความคิดไม่ลงรอยกันในเรื่องการตีความคำสอนของพระพุทธองค์ 



  สมมติว่ามีพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งเข้าใจว่าพระพุทธองค์ไม่ได้ปฏิเสธความคิดเรื่องพระเจ้า แล้วตีความว่ามีคำสอนว่าด้วยเรื่องพระเจ้ามากมายในพระไตรปิฎก ความเข้าใจเช่นนี้ขัดแย้งกับความเชื่อหลักของคณะสงฆ์ที่รัฐสนับสนุนอยู่ ขั้นตอนในการแก้ปัญหานี้มีอยู่สองขั้นคือ (1) คณะสงฆ์หลักโดยคณะผู้ปกครองจะตามลำดับขั้นหรือตรงไปยังระดับสูงสุดเลยก็ตาม จะทำหน้าที่ปรับความเข้าใจกับพระสงฆ์กลุ่มนั้นว่าที่สอนอย่างนั้นไม่ตรงกับที่ยึดถือกันมา หากว่าพระสงฆ์กลุ่มนั้นยอมร้ปว่าตนเองสอนไม่ถูกต้อง ปัญหาก็จบ แต่ถ้าพระสงฆ์กลุ่มนั้นยืนยันว่าตนเองสอนถูกในขณะที่คณะสงฆ์หลักสอนผิด ปัญหาก็จะเลยไปสู่ขั้นตอนที่ (2) คือรัฐจะเข้ามาเป็นผู้จัดการจารีตการอาคัยรัฐเข้ามาเป็นผู้จัดการปัญหาวิกฤติในพุทธศาสนานี้เป็นจารีตที่พุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทยอมรับว่าถูกต้องและถือปฏิบัติกันมายาวนานจารีตดังกล่าวนี้เข้าใจก้นว่าสืบเนื่องมาจากเหตุการณไนประวัติศาสตร์สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช บาร์โหนประกอบง่าย  คัมภีร์เล่าว่าครั้งนั้นมีเดียรถีย์ (นักบวชนอกพุทธศาสนา)ดร. สมภาร พรมทาเข้ามาปลอมบวชเป็นพระสงฆ์เพื่อหวังลาภสักการะมากมาย และเมื่อเข้ามาบวชแล้วก็นำเอาความเชื่อเดิมของตVเมาสอน แล้วอ้างว่านี่คือคำสอนของพุทธศาสนาคณะสงฆ์เองไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง จึงได้ขอความอุปถัมภ์จากทางบ้านเมืองให้จัดการสังคายนาขึ้น มืข้อที่น่าสังเกตว่า การสังคายนาครั้งนี้ดูเหมือนว่ารัฐจะมีสมมติฐานที่ตั้งไว้ก่อนแล้วว่า (1) มืคำสอน'ที่ถูกต้องในพุทธศาสนาอยู่แล้วชุดหนึ่ง และ (2) คำสอนที่ถูกต้องที่ว่านี้เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องปกป้องรักษาเอาไว้ ใครก็ตามที่คืดไม,ตรงกับคำสอนที่ว่านี้จะต้องออกไปจากคณะสงฆ์ รัฐโดยพระเจ้าอโศกมหาราชเชื่อว่าคำสอนที่ถูกต้องในพุทธศาสนาชุดที่ว่านั้นคือสิงที่พระเถระคนสำคัญในสมัยนั้น คือพระ-โมคคัลลีบุตรติสสะยึดถืออยู่ ดังนั้นในการทำสังคายนา รัฐจึงสถาปนาพระ- chinupbar เถระรูปนี้ขึ้นเป็นประธาน การสังคายนากระทำกันในรูปของการนำเอาบรรดาคณาจารย์ต่างๆ ในเวลานั้นมาแสดงความเห็นของตนเกี่ยวกับพุทธธรรม ให้คณะกรรมการซึ่งนำโดยพระโมคคัลลีบุตรติสสะฟ้ง



 กระดูก คณะกรรมการจะทำหน้าที่ตรวจสอบว่าสิงที่บรรดาคณาจารย์เหล่านี้สอนตรงหรือไม่กับพุทธธรรมที่เป็นมาตรฐาน ใครสอนไม่ตรงจะถูกบังคับให้ลาสิกขา เฉพาะที่สอนตรงเท่านั้นที่จะดำรงเพศเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาต่อไปได้ คัมภีร์เล่าว่าผลจากการสังคายนาคราวนั้น มีพระสงฆ์ถูกจับสืกจำนวนมากสมัยโบราณ  ประกอบรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับศาสนาผ่านทางพระมหากษัตริย์การที่พระมหากษัตริย์จำเป็นต้องทรงเกี่ยวข้องกับศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพุทธศาสนานี้ ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นอย่างดี เพราะหากขาดความรู้ ก็อาจเป็นไปได้ว่าการเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นจะเกิดความผิดพลาดได้ ในจารึกสุโขทัยบางหลัก มีข้อความระบุว่าพระเจ้าแผ่นดินในสมัยนั้นทรงมีความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นอย่างดีถึงขนาดว่าสามารถบรรยายเนื้อหาของพุทธศาสนาแก่ประชาชนได้เช่นเดียวกับพระเถระผู้ทรงพระไตรปิฎก  บาร์โหนเพิ่มความสูง วรรณกรรมเรื่อง1ตรภูมิก็เป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว    มีฃ้อที่น่าสังเกตว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินมีความจำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านพุทธศาสนา ความจำเป็นนี้ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์สมัยโบราณต้องดิกษาเล่าเรียนพุทธศาสนา ซึ่งก็แปลความต่อไปได้ว่าท่านจะต้องมีครูครูเหล่านี้ก็คือพระเถระที่ใกล้ชิดคุ้นเคยกับราชสำนักนั่นเอง จากจุดนี้เราจะเห็นว่าระบบสังคมของเรานั่นเองที่เอื้ออำนวยให้สังคมไทยต้องมี “พุทธศาสนาของรัฐ” ไปโดยอัตโนมัติ เนื่องจากว่าการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมภายในคณะสงฆ์ไทยในอดีตเป็นกิจกรรมที่กระทำกันในแวดวงแคบ ๆ การอธิบายและตีความพระธรรมวินัยชนิดที่ยึดถืออรรถกถาและมติของโบราณา-จารย์เป็นหลักอย่างเคร่งครัดนั้น ทำให้ความคิดของผู้ผ่านการดิกษาอบรมมาในระบบนี้ค่อนข้างมีความเป็นเอกภาพ การที่รัฐยึดถือพุทธศาสนาแบบหนึ่งว่าเป็นพุทธศาสนาของรัฐแล้วให้การคุ้มครองปกป้อง จึงเป็นเรื่องที่ไม่สร้างปัญหาความขัดแย้งอะไรในหมู่พุทธศาสนิกชนด้วยกัน บทบาทของรัฐในการปกป้องพุทธศาสนาตามที่กล่าวมานี้ ดูจะมุ่งไปที่การปกป้องพุทธศาสนาจากการรุกรานหรือทำลายโดยบุคคลหรือแนวคิดนอกพุทธศาสนาเสียมากกว่าแต่แล้วสัญญาณที่เตือนว่าระบบความคิดแบบที่เห็นว่า มีพุทธศาสนาอยู่แบบหนึ่งที่เป็นพุทธศาสนามาตรฐาน    และพุทธศาสนาแบบนี้รัฐต้องคุ้มครองปกป้องในฐานะพุทธศาสนาแห่งชาติ อาจมีปัญหาก็เกิดเนเมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ระบบการศึกษาแบบตะวันตกเข้ามามีอิทธิพลต่อความคิดของคนไทยมากขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ใด้เกิดมีสำนักความคิดใหม่ ๆขึ้นในพุทธศาสนาซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานบางอย่างแตกต่างออกไปจากความเชื่อพื้นฐานของพุทธศาสนาของรัฐ  อุปกรณ์ลดหน้าท้อง ในที่นี้เราจะพิจารณาสำนักสันติอโศก สำนักธรรมกาย และสำนักของท่านพุทธทาสในฐานะตัวอย่างกระแสความคิดแบบใหม่ที่แตกต่างออกไปจากกระแสความคิดหลัก ท่านพุทธทาสนั้นคือปราชญ์ทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก ความยิ่งใหญ่ของท่านมาจากการตีความพุทธธรรมตามแบบฉบับเฉพาะตัวของท่าน  มีข้อที่น่าสังเกตว่า เมื่อเทียบกับสันติอโศกและธรรมกายแล้ว ท่านพุทธทาสแตกต่างจากเจ้าสำนักทั้งสองนั้นตรงที่ท่านเรียนบาลี จนมีความรู้ทางภาษาดีเลิศชนิดที่ไม่มีอุปสรรคในmamnussดร. สมภาร พรมทาการทำความเข้าใจพุทธศาสนาที่จารึกเอาไวในภาษาดั้งเดิมอย่างใดทั้งสิน  บาร์โหนสนามเด็กเล่น  ท่านโพธิรักษ์นั้นแม้จะมีความคิดแปลกๆ ใหม่ๆ ในการตีความพุทธธรรม แต่ความแปลกใหม่นั้นก็ยากที่จะทำให้ผู้รู้พุทธศาสนาแบบของรัฐยอมรับได้เพราะตัวท่านโพธิรักษ์ขาดความรู้ทางภาษาบาลีส่วนเจ้าสำนักธรรมกายคือหลวงพ่อสดนั้นแม้จะมีความรู้ทางภาษาบาลีแต่ความแปลกใหม่ในการนำเสนอพุทธธรรมของทำนก็ดูจะไม่เกี่ยวกับความสามารถทางภาษาแต่อย่างใด วิชาธรรมกายที่ท่านประกาศว่าเป็นวิชาเร้นลับที่สูญหายไปจากโลกมาเป็นเวลายาวนาน และบัดนี้ท่านเป็นผู้ค้นพบก็ดูจะเป็นลัทธิลึกลับ  ซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไปเลียมากกว่าที่จะเป็นการตีความพุทธธรรมจากพื้นฐานที่มีอยู่แล้วคือ เนื้อหาในพระไตรปิฎก แม้ท่านจะอ้างข้อความบางแห่งในพระไตรปิฎกสนับสนุน การอ้างนั้นก็ดูจะมีนํ้าหนักน้อยมากในสายตาของผู้รู้พุทธศาสนาแบบของรัฐ

บาร์โหน

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เพิ่มกล้ามเนื้อ เพิ่มความสูงด้วยบาร์โหนติดประตู






บรรลัย ทุกวันนี้ลังคมแก้ไขเศรษฐกิจ แก้ไขสถานการณ์ของลังคมไม่ขึ้นแล้ว ทุกคนก็รักษาตัวรอดเพื่อจะรักษาชีวิตของเขาไปชาติหนึ่ง ๆ เท่านั้นเองนอกนั้นก็หาวิธีปะตรงนั้น ตรงนี้!ปเรื่อย แก้ไม่ได้ อาตมาว่าเรามีทางเดียวเหมือนพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทางอื่น มีทางมรรคองค์แปดนี้ทางเดียว แต่การปฏิบัติธรรมทุกวันนี้!ม่ได้ปฏิบัติมรรคองค์แปดกันอาตมาจะเขียนถึงศาสนาพุทธ จะยกขึ้นมาให้ชัดเจน ในอวัจนสูตรพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัดว่า ศาสนาของท่าน คืล จุลคืล มัชฌิมคืลมหาคืล แล้วก็...สำรวมอินทรีย์...แล้วก็จะเป็นฌาณ เป็นฌาณ แล้วก็จะเป็นวิชาแปด วิชาเก้า นึ่คือธรรมะชองพระพุทธเจ้า นึ่คือทางของพระพุทธ คืลสมาธิ ปัญญาทั้งที่มีที่,มาจากแห่งเดียวกัน แล้วทำไมมหาเถรสมาดม หรือว่าบรรดาพระที่เป็นหลักของประเทศ ท่านไฝได้มองถึงเรื่องนี้อาตมาตอบออกจะชัด ท่านไม่มีบารมีกัน บารมีต้องสั่งสมมาหลายชาติบารมีเป็นอำนาจด้วยหรือเปล่า?อำนาจก็คืออำนาจโดยธรรม อำนาจของธรรมะ บาร์โหนเหล็ก ซึ่งอำนาจธรรมะแพ้อำนาจโลกได้เหมือนกัน อย่างอาตมาเป็นต้น อำนาจโลกเรียกว่าโลกาธิปไตยเพราะฉะนั้น อำนาจโลกไม่ได้หมายความว่า เขาไม่มีฤทธื้ โลกาธิบ่ไตยมืฤทธี้แรงแต่ถึงอย่างไรก็ตาม สัจจะมืธัมมาธิปไตยของมันเองอยู่แล้ว อันนี้ก็เป็นแนวลึกกลับมาที่ความเสือม อาตมาจะอธิบายให้ฟัง ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าท่านเน้นพระไตรปิฎกเล่มเก้าเป็นพระสูตรเล่มที่หนึ่ง ทั้ง 13 สูตร มี'จุลคืลมัชฌิมคืล มหาคืล บอกทิศทางการปฏิบัติไว้ครบทุกสูตร

ก็คือดีล สมาธิปัญญา ท่านตราว่า ต้องคืลเสิยก่อน คือ จุลคืล มัชฌิมาคืล มหาคืลแล้วก็สำรวมอินทรีย์ นี่คือการปฏิบัติ ไมใช่นั่งหลับตา พระพุทธเจ้าตราศาสนาสอนศาสนา บอกทฤษฎีศาสนา ในการปลูกฝังสร้างศาสนาแต่แรก พระองค์ก็ต้องเกิดอัน'นี้ขึ้นมาก่อน เพราะฉะนั้นพราหมณ์ทั้งหลายแหล่ คืออาจารย์ทางศาสนาในยุคนั้น เป็นอาจารย์ใหญ่ทั้งนั้น ใน 13 สูตรมาจากบรรดาพราหมณ์!หญ่ พระองค์รวมพระไตรปิฎกแล้วก็รวมเอาสูตรต่าง ๆ พวกนี้มาสมณะโพธรักษ์เป็นตัวอย่างไว้ มี 13 สูตร มันมีแง่คนละแง่ ที่จริงมีมากกว่านี้ แต่ผู้ที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎก ท่านเอาสูตรสำคัญ 13 สูตรนี้มาใส่ไว้ชึ่งมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน แต่โดยแก่นแล้ว คือวิธีการสอน คืออันเดียวกันหมดแสดงว่าพ่อท่านยํ้า หรือเสนอความสำคัญของวัตรปฏิบัติของพระให้มาจับเรื่อง จุลคัล มัฌิมคัล มหาคัลแน่นอน วินัย 227 เป็นวินัยอาชญา เป็นวินัยที่มีบทลงโทษ มีบทบังคับ ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาบังคับคืล สมาธิ ปัญญาไม่ได้บังคับใครใครปฏิบัติคนนั้นก็ได้ ใครไม่ปฏิบัติก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามาบวชแล้วจะต้องอยู่ในวินัยนี้ ส่วนคืลนี้ คุณไม่ปฏิบัติ คุณก็ไม่ได้ มันถึงหย่อนไง แล้วก็ไม่มีความรู้ว่าต้องปฏิบัติคืลนี้ อาตมาเคยยืนยันคืลนี้จนถึงที่ตอนอาตมาถูกจับ ตอนอาตมาถูกจับอาตมาพิมพ์ ธรรมนูญของพุทธ มีจุลคืล มัชฌิมคืลมหาคืล แล้วอธิบายไว้เป็นเล่มเล็กๆ พิมพ์ออกไปเป็นแสนเล่ม พระธรรมปิฎกเห็นแล้วบอกว่า นี่คืลของพระอาริยะ อาตมาว่า ก็จริง เพราะศาสนาพุทธสอนให้พระเป็นอาริยะ ไม่ได้สอนให้พระเป็นปุถุชน เป็นโลกุตระหากเป็นเข่นนั้น กรณีการจัดการที่คักษาของพระภิกษุ ที่เป็นมหา-วิทยาลัยสงฆ์ต่าง ๆ ก็ถือว่าผิดทิศทางก็เรียนไปแบบโลกๆ เรียนไปเพื่อที่จะไปเป็นราชบัณฑิต ไปเป็นอนุศาสนาจารย์ ไปเป็นอาจารย๎ในมหาวิทยาลัย ไปต่อภูมิเป็นดอกเตอร์ แล้วก็ทำมาหากินไปเท่านั้นเองการจัดการคักษาพระเข่นนี้ เนื่องจากพระไม่สามารถปรับคัวและทู้ท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไป มิใข่หรือ?ไม่รู้เท่าทันโลก แล้วไปเป็นทาสโลกิยะ ไปเป็นทาสโลกแท้ๆ ทาสสังคมโลกิยะ ไม่ได้เข้าใจโลกุตระ โหนบาร์เพิ่มกล้าม ศาสนาพุทธเกิดมาและเด่นได้เพราะความเป็นโลกุตระ โลกิยะนั้นศาสนาไหนๆ ก็สอนกันทั้งนั้น มีแต่ศาสนาพุทธที่ยืนยันว่า เป้าหมายของสงฆ์เป็นโลกุตระ    ดังนั้นพ่อห่านเห็นว่า การดักษาของสงฆ์ควรจะเปลี่ยนไปเปีนเรื่องของโลกุตตระมากกว่าโลกียะ ต้องมีการปฏิรูปการดักษาสถาบันสงฆ์หรือไม่?แน่นอนถ้าปฏิรูปได้ แต่อาตมาไม่มีอิทธิพล ไม่มีบุญที่จะไปปฏิรูปได้เขาไม่ยอมรับด้วยชํ้า อาตมาพูดเขาหาว่าออกนอกรีต หาว่าผิด ถึงได้มีการขึ้นศาล แต่ศาลไม่ได้พิจารณาเรื่องธรรมะ แต่ศาลพิจารณาเรื่องกฎหมายเอาอาตมาผิด พอเอาเข้าจริงแล้วก็เลี่ยงไปเอากฎหมายมาตีอาตมา ก็กฎหมายมันบล็อกไว้แค่ว่า

 สั่งให้ถึกภายใน 7 วัน ถ้าไม่ถึก ผิดกฎหมาย เมื่ออาตมาไม่ยอมถึก เขาก็เอาผิดกับอาตมาแค่นั้นแหละ ส่วนธรรมะนั้นเราก็พยายามใส่เข้าไปในคำให้การ บาร์โหนติดประตูราคา ติดสำนวนไว้ตั้งเยอะแยะ เขาไม,เอามาพูดถึงเลย เขาพูดในแง่ประเด็นกฎหมาย ประเด็นของธรรมะเขาพูดเหมือนกัน ในประเด็นที่เขาเอามุมที่มันใช!ด้มาใช้เท่านั้นเอง สิงที่เราค้านเราแย้ง ไม่ได้น่ามาเป็นข้อมูลในการพิจารณาในตอนดัน พ่อห่านพูดถึงว่า ป็ญหาของศาสนาจริงๆ อยู่ที่ภิกษุพระภิกษุเป็นผู้ที่ถึบทอดพระศาสนา เพราะฉะนั้น อัน'น!ม่แท้ อันนี้ไม่จริง จึงไม่จริง เป็นอิทัปปัจจยตา เพราะไมมัลี่งนี้ เพราะไม่มีโลกุตระสิงที่เกิดจึงไม,เป็นโลกุตระ ศาสนาปัจจุบันถูกทำให้เป็นโลกิยะเท่านั้นแต่ถ้าเขาบอกว่า มีทั้งโลกียธรรมและโลกุตรธรรมนั้น นี่ก็จริง ศาสนาพุทธมีโลกียธรรมและโลกุตรธรรม โลกิยธรรรมที่อยู่ในระดับดี เรียกว่ากัลยาณธรรม ขายบาร์โหนประกอบง่าย  แต่ธรรมของพระพุทธเจ้านั้นข้ามเขตกัลยาณธรรมมาเป็นอาริยธรรม เขตของความเป็นอาริยธรรมอยู่ตรงปรมัตถ์ อยู่ตรงจิตเจตสิกรูปนิพพาน ซึ่งในอภิธรรมเขาก็เรียนกัน แต่ไม่เคยสามารถรู้จิตตนเองจริงๆแล้วก็ไม่มีวิธีอ่านจิตจริง ในเวทนา 108 เป็นอย่างไร อ่านลงไปว่าในเวทนานั้นสุขอย่างไร ทุกข์อย่างไร เหตุที่เป็นสมุทัยแห่งทุกข์ ที่หลงว่าเป็นสุขนั้นเป็นอย่างไร นี่เป็นโลกิยะพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนสาวกให้ออกจากโลกิยะนั่นเอง ออกจากกามออกจากอัตตา ออกจากมานะ ออกจากโลกิยะมา โดยแบ่งเขตอาการของจิตอารมณ์ของจิต จับสภาวะของจิตว่า อย่างนี้นี่มันโลกิยะ ลดเหตุแห่งโลกิยะ

บาร์โหน

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วิธีสร้างกล้ามเนื้อง่ายๆด้วยการโหนบาร์วันละ 15 นาที ตอนที่ 2





ถ้าท่านเชื่อ ท่านก็จะได้รับทุกอย่างตามที่อธิษฐานขอมองทุกอย่างที่ต้องการเหมือนมันอยู่รอบๆ ตัวของคุณตลอดเวลา นึกภาพคุณได้เป็นเจ้าของและใช้งานมันใช้มันในจินตนาการเหมือนกับที่คุณจะใช้เมื่อได้มันมาจริงๆ คิดทบทวนไปมาจนภาพนั้นซัดเจน และทำใจเป็นเจ้าของทุกอย่างที่นึกภาพเอาไว้ ครอบครองมันในใจด้วยความ เชื่อมั่นว่ามันเป็นของคุณ อย่าสงลัยแม้แต่น้อยว่ามันไม่ใช่ความจริงและจงจำสิ่งที่บอกไว้ในบทที่แล้วในเรื่องความกตัญญขอบคุณอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่ามันเกิดขึ้นจริงแล้ว คนที่  เบื้องหลังมโนภาพที่ชัดเจนนี้จะต้องมีเป้าหมายของการนึกภาพให้ออก นั่นก็คือการทำให้มันเป็นจริง และ บาร์โหนติดประตูราคา เบื้องหลังเป้าหมายนี้จะต้องเป็นศรัทธาที่มั่นคงไม่แปรเปลี่ยนว่ามันเป็นของคุณแล้วมันอยู่ใกล้มือและคุณเพียงแค่ต้องหยิบมันขึ้นมาใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่อยู่ในใจจนกว่ามันจะเกิดขึ้นจริงเพลิดเพลินกับลี่งที่คุณต้องการในใจทันทีถ้าท่านเชื่อ ท่านก็จะได้รับทุกอย่างตามที่อธิษฐานขอมองทุกอย่างที่ต้องการเหมือนมันอยู่รอบๆ ตัวของคุณตลอดเวลา นึกภาพคุณได้เป็นเจ้าของและใช้งานมันใช้มันในจินตนาการเหมือนกับที่คุณจะใช้เมือได้มันมาจริงๆ คิดทบทวนไปมาจนภาพนั้นชัดเจน และทำใจเป็นเจ้าของทุกอย่างที่นึกภาพเอาไว้  บาร์โหนติดผนัง ครอบครองมันในใจด้วยความ เชื่อมั่นว่ามันเป็นของคุณ อย่าสงลัยแม้แต่น้อยว่ามันไม,ใช่ความจริงและจงจำสิ่งที่บอกไวิในบทที่แล้วในเรื่องความกตัญณูขอบคุณอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่ามันเกิดขึ้นจริงแล้ว คนที,หน้าที่ของคุณคือการนึกภาพสิ่งที่คุณต้องการเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นให้ชัดเจน และปลูกฝังมันลงไปในสสารต้นแบบซึ่งมีอำนาจนำสิ่งที่คุณต้องการมาให้คุณไม่ได้ปลูกฝังมันด้วยการพูดซํ้าไปซํ้ามา แต่ด้วยการนึกภาพโดยมุ่งมั่นที่จะไต้มา

 และด้วยศรัทธาที่แน่วแน่ว่าคุณได้มันมาจริงๆคุณไม่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่พระเจ้าด้วยการมีวันพิเศษเพื่อบอกกับพระองค์ว่าคุณต้องการอะไรแล้วเวลาที่เหลือทั้งสัปดาห์ก็ลืมพระองค์ไป หรือว่าจัดชั่วโมงพิเศษเพื่อสวดมนต์ แล้วก็ลืมเรื่องนี้ไปจนกว่าจะได้เวลาสวดมนต์อีกครั้งการสวดภาวนาก็ใช้ได้ผล เพราะมันทำให้ภาพในใจชัดเจนมากขึ้นและทำให้ศรัทธาแข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่การพูดซํ้าไปซํ้ามาที่ทำให้คุณได้อย่างที่ต้องการ  ขายบาร์โหนประกอบง่าย เพื่อที่จะรวยคุณจะต้องมีภาพในใจที่มั่นคง มีเป้าหมายที่จะทำให้มันเป็นจริง และมีศรัทธาว่าคุณกำลังทำอยู่‘‘จงเชื่อว่าจะได้รับ’’  ทั้งหมดนี้เปิดสวิตช์การรับขึ้นมา จำไว้ว่าศรัทธาและเป้าหมายของการใช้จินตนาการเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างนักวิทยาศาสตร์กับคนช่างฝันและเมื่อรู้เช่นนี้ คุณต้องเรียนรู้วิธีการใช้อำนาจจิตอย่างเหมาะสม

บาร์โหน