วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เลือกเสื่อโยคะแบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้งาน




ดูเคเบิ้ลทีวีฟรี'จริงหรือคุณมดแดงจัดเป็นคนกลุ่มที่น่าจะเรียกว่า แฟนพันธุแท้หนังฝรั่ง พอเห็นโฆษณาว่า ถ้าสมัครเป็นสมาซิกใช้บริการโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่งเพียงเดือนละ 300บาท ก็สามารถดูเคเบิ้ลได้ฬรี เท่านั้นแหละ คุณมดแดงก็จูงมือสามีไปสมัครโดยลืมคิดหน้าคิดหลังเลยคุณมดแดงจ่ายเงินไป 2,000 บาท ซึ่งเธอได้รับแจ้งว่าเป็นค่ามัดจำ หลังจากนั้นอีก 3 วัน ก็มืเจ้าหน้าที่มาติดตั้งให้ โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าดูได้ตั้ง 10 กว่าซ่อง“โอ๊ย...มีความสุขมาก มีการ์ตูนให้ลูกดู มีหนังฝรั่งเพียบค่ะ”ครอบครัวคุณมดแดงมีความสุขกับการดูเคเบิ้ลทีวีได้เพียงแค่ 2 เดือน แต่พอย่างเข้าเดือนที่ 3 กลับดูได้แต่ซ่องฟรีทีวี และซ่องหนังเอเชีย ซึ่งเอาแต่ขุดกรุหนังจีนเก่าๆ ไม่ได้เรื่องมาฉาย คุณมดแดงชักไม่เข้าใจ พอไปถามที่ศูนย์บริการลูกค้าพนักงานก็บอกให้ว่าต้องจ่ายรายเดือนอีก 300 บาท“เราก็ถามว่า ก็ไหนบอกว่าแค่ใช้บริการโทรศัพท์เดือนละ 300 บาทก็ดูได้นึ่เค้าบอกว่าก็ดู1ได้ แต่ได้แค่เท่านี้ คือสามเดือน’'คุณมดแดงได้ข้อสรุปว่า “ เสื่อโยคะยี่ห้อไหนดี เขาบอกเราไม่หมด อุบไว้ในสิ่งที่สำคัญ เซ็งมากๆเบื่อบ้านนี้เมืองนี้เหลือเกิน เอาเปรียบกันเห็นๆ โดยเฉพาะกับชาวบ้านตาดำๆเซ็งมาก” “โครงการด้งกล่าวจัดขึ้นโดยสุจริต มิได้มีเจตนาที่จะเอาเปรียบผู้บริโภคแต่อย่างใด...สำหรับผู้โซคดีที่ได้รับรางวัลที่ 1 ทางบริษัทได้ร่วมกับธนาคารแห่งหนึ่งจัดซื้อแพ็กเกจทัวร์จากบริษัททัวร์ โดยที่บริษัทด้านโรงภาพยนตร์มิได้เป็นผู้จัดการดำเนินการเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ จึงเป็นหน้าที่ของบริษัททัวร์โดยเฉพาะที่จะเป็นผู้ดำเนินการต่างๆ ตามเพ็กเกจทัวร์ที่ได้เสนอราคามา โดยราคา193,000 บาทเป็นราคาเหมารวมที่บริษัททัวร์มีได้แยกค่าใช้จ่ายไว้โดยซัดเจนว่าเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง จำนวนเท่าใด บริษัทจึงไม่อาจชี้แจงรายละเอียดได้ แต่ด้วยเหตุที่เลือกซื้อแพ็กเกจทัวร์ด้งกล่าวมาเป็นรางวัลใหญ่ให้แก่ผู้โซคดี  เสื่อโยคะยางพารา เพราะเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม

 และเป็นของบริษัทที่เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจได้ในการให้บริการแก่ผู้ได้รับรางวัล...ประกอบกับทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าแพ็กเกจทัวร์ด้งกล่าวไปจริงโดยไม่ได้ตั้งเงินค่าแพ็กเกจทัวร์ขึ้นมาลอยๆ โยคะ  เกินกว่าความเป็นจริงแต่อย่างใดซึ่งรายละเอียดตามที่กล่าวมาปรากฏตามสำเนาใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี และใบเสนอราคา การกระทำของบริษัทจึงไม,ได้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคแต่อย่างใด”กรณีที่มูลค่าของรางวัลไม่ตรงกับราคาจริง เคยมีคนร้องทุกข์มาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคหลายครั้ง ซึ่งมีฃ้อสังเกตที่น่าสนใจคือใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากส่วนต่างที่เกิดขึ้น เนื่องจากทางบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านโรงภาพยนตร์อ้างว่าตนได้จ่ายเงินไปตามใบเสนอราคาจริงถ้าเช่นนั้นหมายความว่าซื้อของแพงเกินจริงกระนั้นหรือ คนที่ได้กำไรเห็นๆคือบริษัททัวร์ใช่หรือไม่ หรือเป็นวิธีการทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไปถึงการเสียภาษีของบริษัทและธนาคารผู้จัดกิจกรรมด้งกล่าวขึ้นมา ไปชี้แจงรายละเอียด ได้แก่1.    ไม่สามารถโอนรางวัลนี้ให้ใครได้2.    เสื่อโยคะtpe  ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์รวมเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นจำนวนเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมด 23,160 บาท3.    เอกสารต่างๆ เพื่อยื่นขอวีซ่าคุณธนาและผู้โซคดีคนอื่นๆ ยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไข ถึงแม้ว่าในเบื้องต้นคุณธนาเองจะยังมีข้อติดใจที่ว่า “ราคาทัวร์ค่อนข้างแพง’’ เมื่อเทียบกับกำหนดการที่ผู้จัดกิจกรรมได้แจกแจง รวมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งทางผู้จัดกิจกรรมได้ผลักให้เป็นภาระของผู้บริโภคถ้าเป็นผู้บริโภคทั่วไปซึ่งไม่คุ้นกับการเดินทางในต่างประเทศ คำอธิบายของผู้จัดกิจกรรมที่ระบุว่า ที่ทัวร์มีราคาแพงนั้นเพราะเป็นช่วงโอลิมปิก ของทุกอย่างราคาแพงมาก ทั้งค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ คงคลายข้อติดข้องหมองใจให้กับผู้บริโภคได้ แต่คุณธนาเป็นมัคคุเทศก์ซึ่งนำคณะทัวร์ไปเยือนต่างประเทศโดยเฉพาะแถบยุโรปบ่อยครั้ง แม้จะไม่ใช่ที่กรีซหรืออิตาลี แต่กิพอจะหาข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม คุณธนาก็ยอมรับเงื่อนไขที่จะจ่ายค่าภาษีทั้งหมด 23,160 บาท เพราะอยากไปประเทศอิตาลี ซึ่งตนเองยังไม่เคยสัมผัสหลังจากร่วมเดินทางไปกับคณะทัวร์และได้ถือโอกาสตรวจสอบคำใช้จ่ายต่างๆ คุณธนาพบว่ามูลค่าของทัวร์ครั้งนี้ควรอยู่ที่ราคาเพียง 80,000 บาท  เสื่อโยคะยางธรรมชาติ เท่านั้นซึ่งเมื่อนำมาคำนวณภาษี 12 เปอร์เซ็นต์ตามที่ผู้จัดกิจกรรมระบุแล้ว จะเป็นจำนวนเงินเพียง 9,600 บาทเท่านั้นเอง แล้วส่วนต่างที่หายไปนั้น มันคืออะไรกันแน่“ผมเห็นว่าทางโรงหนังและธนาคารได้แจ้งมูลค่ารางวัลและมูลค่าภาษีที่คิดจากผู้ที่1ได้รับรางวัลเกินความจริง ถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค มีผู้ร่วม1ได้รับรางวัลหลายคนรู้สึกเช่นเดียวกับผม นั้นคือถูกเอาเปรียบ หรือได้รับข้อมูลไม,ครบถ้วน”เมื่อทางศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บรีโภคได้ขอให้ทางโรงภาพยนตร์ชี้แจงรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับที่ผู้บริโภคได้สืบทราบมา และคืนเงินส่วนต่างคืนให้แก่ผู้บริโภคนั้น ทางบริษัทที่ประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ได้ชี้แจงว่า

เสื่อโยคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น